Jun 27, 2011

Lotus

บัว เป็นพืชน้ำล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้น โดยมีก้านใบส่งขึ้นมาเจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ รูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีขนาดใหญ่ บางชนิดมีก้านใบบัว ผิวใบเรียบ มีสีนวลเคลือบตลอดหน้าใบ ขอบใบเรียบ มีสีเขียวตลอดทั้งใบ ก้านใบแข็ง
บัวเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ถือเป็นสัญญลักษณ์ของคุณงามความดี บัวหลวงชอบขึ้นในน้ำจืด ออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอาด อยู่ในน้ำลึกพอสมควร ถิ่นกำเนิดของบัวอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเริ่มบานตั้งแต่ตอนเช้า ก้านดอกยาวมีหนามเหมือนก้านใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชูสูงกว่าใบเล็กน้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ ดอกมีสีขาวอมเขียว, สีเทาชมพู หรือสีชมพูอมม่วง ร่วงง่าย กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกันหลายชั้น เกสรตัวผู้มีจำนวนหลายสี ภายในดอกมีรูปร่างคล้ายกรวย มีเมล็ดฝังอยู่ภายใน และจะเติบโตเป็นผล ที่เรียกกันว่าฝักบัว
บัวที่พบและนิยมปลูกในประเทศไทย มาจาก 3 สกุล คือ
  • บัวหลวง (Lotus) เป็นบัวในสกุล Nelumbo มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า ปทุมชาติ หรือบัวหลวง
  • บัวผัน, บัว(กิน)สาย (Waterlily) เป็นบัวในสกุล Nymphaea มีลำต้นใต้ดินเป็นหัว หรือเหง้า ใบและดอกเกิดจากตาหรือหน่อที่เจริญขึ้นมาที่ผิวน้ำด้วยก้านส่งใบและยอด
  • บัววิกตอเรีย (Victoria) เป็นบัวในสกุล Victoria มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า บัวกระด้ง จัดเป็นบัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
พ.ศ. 2551 ค้นพบสายพันธุ์บัวสายพันธุ์ใหม่ของโลกที่พิพิธภัณฑ์บัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ได้ตั้งชื่อว่า "ธัญกาฬ" และ "รินลอุบล"
คุณค่าทางโภชนาการ: รากบัวมีแคลเซียม วิตามินซี และอื่นๆ เกสรตัวผู้มีกลิ่นหอม เมล็ดบัวมีแคลเซียมสูง มีธาตุเหล็ก โปรตีน แป้ง วิตามินซี และสารอื่นๆ ดีบัวมีอัลคาลอยด์หลายชนิด
สรรพคุณและการใช้ประโยชน์
ยอดอ่อน ไหลบัว ต้มกะทิ เป็นผักจิ้มน้ำพริก ผัด หรือแกงส้ม
ใช้เป็นยา: เกสรปรุงเป็นยาหอม ทำให้ชื่นใจ และเป็นยาชูกำลัง รากมีรสหวาน และมีกลิ่นหอม ให้เด็กกินระงับอาการท้องร่วงหรือธาตุไม่ปกติ และเป็นอาหารได้ เหง้าและเมล็ดมีรสหวานมันเล็กน้อย เป็นยาบำรุงกำลัง แก้อาการร้อนใน แก้กระหายน้ำ รักษาดี ขับเสมหะ อาการพุพอง เมล็ดจะมี embryo มีสีเขียว เรียกว่าดีบัว ซึ่งมีรสขมจัด มีสารอัลคาลอยด์หลายชนิด มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อของหัวใจ
น้ำรากบัว
ส่วนผสม:
รากบัว  2  ถ้วย
น้ำสะอาด  3  ถ้วย
น้ำตาลทราย  1/3  ถ้วย
วิธีทำ:
นำรากบัวที่ล้างสะอาด ฝานเป็นชิ้นบางๆ นำไปต้มกับน้ำ แล้วคั่วจนกระทั่งได้น้ำเป็นสีชมพู กรองเอากากออก เติมน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือด ชิมรส ใส่ขวดนึ่ง 20 - 30 นาที พอเย็นเก็บใส่ตู้เย็น จะได้น้ำรากบัวสีชมพู รสหวานเย็น ดื่มแก้กระหายน้ำ

ข้อมูลอ้างอิง: หนังสือเคล็ดวิธี...กินอย่างไร? ไร้โรคภัย

No comments:

Post a Comment