Jun 17, 2011

Healthy Fruit - Banana

 กล้วยน้ำว้า คุณค่าคับผล จะสุกจะดิบ ก็อร่อยได้สารพัด ในบรรดาความหลากหลายของสารพันธุ์กล้วยที่มีอยู่ในเมืองเรา ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว กล้วยไข่ กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนาก และกล้วยน้ำไท คงไม่มีกล้วยชนิดไหนที่คนไทยเราจะนิยมบริโภคมากเป็นอันดับหนึ่ง เท่ากับกล้วยน้ำว้า ซึ่งทิ้งห่างอันดับสองแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะนอกจากกล้วยน้ำว้าจะมีราคาไม่แพงเหมือนกับกล้วยหอมแล้ว ยังหาซื้อได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไปเดินตลาดที่ไหนก็มีขายกันทั่ว

กล้วยน้ำว้า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Musa sapientum Linn.) เป็นกล้วยพันธุ์หนึ่ง พัฒนามาจากลูกผสมระหว่างกล้วยป่า กับกล้วยตานี เป็นพืชที่ขึ้นทั่วไปในเขตร้อน ขยายพันธุ์โดยแตกหน่อ บริโภคกันอย่างแพร่หลาย ปลูกง่าย รสชาติดี อร่อยด้วย กล้วยน้ำว้ามีชื่อพื้นเมืองอื่นเช่น กล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยใต้ หรือ กล้วยอ่อง
หัวปลี ซึ่งเป็นดอกของต้นกล้วย ก็สามารถกินได้ทั้งแบบดิบและสุก รสชาติจะฝาด นำกลีบมาชุบแป้งทอดกินได้ หรือจะใช้ใส่ในแกงเลียง ต้มยำไก่ กินแกล้มกับขนมจีนน้ำพริก ทำทอดมัน และอีกสารพัดเมนูของอร่อย ซึ่งหาทานได้ง่ายมาก มีมากมายตามสวนไร่นา
กล้วยน้ำว้านั้นยังเป็นยอดของผลไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งแทบจะหาที่ติไม่ได้เลย นอกจากจะซื้อง่ายขายถูกแล้ว ยังมีรสหวานพอเหมาะพอดี กินง่าย แปรรูปได้สารพัด นำมาทำขนมต่างๆ และยังใช้ประโยชน์อื่นๆ หลายอย่างจากลำต้นและใบ ผลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะทำดิบ ทำสุก หยวกก็กินดี หัวปลีก็กินอร่อย แถมพ่วงติดมาด้วยความเป็นสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์ได้อีกตั้งมากมาย พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า คุณค่าคับผล จริงๆ
คุณค่าทางโภชนาการ: กล้วยน้ำว้าเมื่อเทียบกับกล้วยหอมและกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานมากที่สุด ในส่วนของผลไม่ว่าจะกินแบบสุกหรือดิบอย่างไร ก็ให้พลังงาน (แคลอรี่) คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน (ต่ำ) วิตามินบี 1, บี 2 และไนอาซิน ในปริมาณที่เท่ากัน กล้วยน้ำว้าห่ามและสุกมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุงกระดูก ฟัน และเหงือกให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดี อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีนและใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น กินกล้วยน้ำว้าสุกจะช่วยระบายท้อง และสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันในเด็กเล็กได้ ช่วยลดอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอกที่มีอาการไอแห้งร่วมด้วย โดยกินวันละ 4-6 ลูก แบ่งกินกี่ครั้งก็ได้ กินกล้วยก่อนแปรงฟันทุกวันจะทำให้ไม่มีกลิ่นปาก และผิวพรรณดี เห็นผลได้ใน 1 สัปดาห์
กล้วยน้ำว้าดิบและห่ามมีสารแทนนิน เพคติน มีฤทธิ์ฝาดสมาน รักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ โดยกินครั้งละครึ่งผล หรือ 1 ผล อาการท้องเสียจะทุเลาลง นอกจากนี้จากการศึกษาวิจัยยังพบว่า มีผลในการรักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย ใครที่ชอบกินปลีกล้วยก็ยิ่งดี เพราะมากด้วยแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และวิตามินซี แถมยังมีเบต้าแคโรทีนติดมาในปริมาณมากด้วย ส่วนหยวกที่กินอร่อยนั้นก็โดดเด่นตรงที่ให้วิตามินบี 2 สูงสุด
สรรพคุณและการใช้ประโยชน์
กล้วยเป็นอาหารบำรุงกระเพาะและลำไส้ เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยระบายกากอาหารที่หมักหมม สาเหตุที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้
ผลดิบ: ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาท้องเสียเรื้อรัง อาหารไม่ย่อย โดยหั่นทั้งเปลือกเป็นแว่นตากแห้งแล้วบดเป็นผง ปั้นเป็นเม็ดหรือใช้ชงน้ำร้อนดื่ม ใช้ครั้งละประมาณเท่ากับกล้วยครึ่งถึงหนึ่งผล หรือนำผงมาใช้โรยรักษาแผลเน่าเปื่อย แผลติดเชื้อ แผลเรื้อรัง
ผลสุก: ช่วยการขับถ่าย มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อรา แก้ท้องผูก บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
เปลือกผลดิบ: ใช้สมานแผล
หัวปลี: บรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้ ใบหัวปลีมีธาตุเหล็ก บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง ลดน้ำตาลในเลือด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ คั้นน้ำใช้บำรุงโลหิต แก้ถ่ายเป็นมูกเลือด
ยาง: ใช้สมานแผล ห้ามเลือด
ใบ: ต้มแล้วนำมาอาบแก้เม็ดผดผื่นคัน หรือนำไปปิ้งเพื่อปิดแผลไฟไหม้
ราก: ต้มดื่มแก้ไข้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ท้องเสีย แก้บิด แก้ผื่นคัน
กาบต้น, ลำต้น: ใช้ทำเชือก ทำแพ เลี้ยงหมู ฯลฯ

ข้อมูลอ้างอิง: หนังสือเคล็ดวิธี...กินอย่างไร? ไร้โรคภัย

No comments:

Post a Comment