Smoothies for Healthy Hair

3 สูตรเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมประกายเงางาม

สูตร 1  Papaya Cabana

ส่วนผสม :

มะละกอสุกหั่นชิ้นเล็ก  ½  ถ้วยตวง                  นมสด  3  ช้อนโต๊ะ 

น้ำผึ้ง  2  ช้อนโต๊ะ                                          น้ำแข็งบด  ¼  ถ้วยตวง

วิธีทำ :

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นไฟฟ้า ปั่นทุกอย่างรวมกันจนกลายเป็นเนื้อเดียว เทใส่แก้วทรงสูง ตกแต่งให้สวยงามด้วยผลไม้ เช่น สับปะรด เชอรี่ แอปเปิล ก่อนเสิร์ฟ

คุณประโยชน์ :

เครื่องดื่มแก้วนี้ ประกอบด้วย มะละกอที่อุดมด้วยสารอาหารวิตามินเอ ในรูปของเบต้า-แคโรทีน (beta-carotene) แคลเซียมจากนมสด และแล็กโทส (lactose) จากน้ำผึ้ง ทั้งหมดช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น เส้นผมแข็งแรงเงางาม อีกทั้งช่วยระบบย่อยอาหาร แก้ท้องผูก

สูตร 2  Strawberry Delight

ส่วนผสม :

สตรอว์เบอร์รี่สดหั่นชิ้น  1/3  ถ้วยตวง                 โยเกิร์ตนมสด  3  ช้อนโต๊ะ 

น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง  2  ช้อนโต๊ะ                           น้ำแข็ง  ¼  ถ้วยตวง

เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ :

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นไฟฟ้า ปั่นทุกอย่างรวมกันจนกลายเป็นเนื้อเดียว เทใส่แก้วทรงสูง ตกแต่งด้วยผลสตรอว์เบอร์รี่สด ก่อนเสิร์ฟ

คุณประโยชน์ :

สมูธธี่แก้วนี้ประกอบด้วย สตรอว์เบอร์รี่ที่อุดมด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ แล้วยังมีแคลเซียมจากโยเกิร์ต กลูโคส (glucose) และแล็กโทส (lactose) จากน้ำตาลและน้ำผึ้ง ไอโอดีนจากเกลือ ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะไม่ให้แห้งแตกลอก เป็นขุย

สูตร 3  Banana Cool

ส่วนผสม :

กล้วยหอมสุกหั่นชิ้น  1/3  ถ้วยตวง                      นมสด  3  ช้อนโต๊ะ 

ปลายจมูกข้าวอบแห้ง  1  ช้อนโต๊ะ                      งาขาวหรืองาดำ  1  ช้อนโต๊ะ 

น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง  2  ช้อนโต๊ะ                           น้ำแข็งบด  ¼  ถ้วยตวง

เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ :

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นไฟฟ้า จากนั้นปั่นรวมกันจนกลายเป็นเนื้อเดียว เทใส่แก้วทรงสูง พร้อมเสิร์ฟ

คุณประโยชน์ :

สมูธธี่แก้วนี้ประกอบด้วย กล้วยหอมที่ให้พลังงานและโพแทสเซียม จมูกข้าวและงาอุดมด้วยวิตามินอี และแล็กโทส (lactose) จากน้ำผึ้ง ช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง เส้นผมดกดำเงางาม มีน้ำหนักและสุขภาพดี

Vitamins Tips

วิตามินเอ : พบมากในมะละกอ ฟักทอง น้ำมันตับปลา ถั่ว และเมล็ดพืช ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง เส้นผมมีสุขภาพดีและดูหนานุ่ม

วิตามินซี : พบมากในผลไม้รสเปรี้ยวทุกชนิด เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด สตรอว์เบอร์รี่ ฝรั่ง เป็นต้น ช่วยให้รูขุมขนที่หนังศีรษะขยายตัวไม่ตีบตัน เซลล์ผมสามารถดูดซึมสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของเส้นผม ได้ทั่วถึงถึงรากผม เส้นผมจึงแข็งแรง และสุขภาพดีไม่ขาดร่วง

วิตามินอี : พบมากในปลายจมูกข้าว เมล็ดดอกทานตะวัน งา อะโวคาโด และอัลมอนด์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต เพื่อการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงต่อมเส้นผมให้ทั่วบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมสุขภาพแข็งแรงมีน้ำหนัก และเงางามเป็นประกาย

Health Benefits of Soybeans

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วเหลือง

ถั่วเหลืองลดคอเลสเตอรอลได้ (Cholesterol reduction)

ในงานวิจัยของแพทย์จากมหาวิทยาลัยเคนตักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ถั่วเหลืองช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดได้ โดยเขาได้ทำการทดลองแบ่งผู้ใหญ่ที่อ้วนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ทานอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นหลัก อีกกลุ่มหนึ่งให้ทานอาหารที่มีนมโคเป็นหลัก เป็นเวลา 12 สัปดาห์ติดต่อกัน ผลการทดลองพบว่าทั้งสองกลุ่มต่างมีน้ำหนักลดลง แต่กลุ่มแรกจะมีน้ำหนักลดลงมากกว่า และระดับคอเลสเตอรอลก็ลดลงด้วย ซึ่งแพทย์ที่วิจัยได้เสริมด้วยว่า ถั่วเหลืองเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่คงไม่อาจช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ฮวบฮาบภายในเวลาอันสั้น แต่ถ้าทานเป็นประจำจะทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ดังนั้นสาวๆคนไหนที่ใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษก็ลองหันมาทานถั่วเหลืองกันบ้างก็คงดี

ถั่วเหลืองกับสตรีรุ่นใหญ่

เมื่อย่างกรายเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน อวัยวะต่างๆในร่างกายก็สึกกร่อนตามไปด้วย วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสื่อมโทรมของหญิงวัยทองคือ “การบริโภคอาหารถั่วเหลือง” โดยนักวิจัยทางโภชนาการได้ศึกษาพบว่า ในถั่วเหลืองมีสาร “ไอโซฟลาโวน” (Isoflavone) ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ของเพศหญิงแต่เบาบางกว่า ช่วยป้องกันอุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านม โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน และลดอาการข้างเคียงต่างๆ อีกทั้งผลวิจัยในออสเตรเลียรายงานว่า สตรีรุ่นใหญ่ที่บริโภคอาหารถั่วเหลืองวันละครึ่งถ้วยเป็นประจำ สามารถลดอาการของโรคต่างๆลงได้อย่างน่ามหัศจรรย์ อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่มีหลักประกันแน่ชัดว่า การบริโภคถั่วเหลืองเป็นอาหารหลัก จะช่วยป้องกันโรคได้ แต่จากผลการศึกษาและวิจัยหลายๆชิ้นก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า ถั่วเหลืองช่วยชีวิตผู้หญิงวัยทองให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้มากเพียงใด... 

ยังไม่สายเกินไป ที่จะบรรจุถั่วเหลืองให้เป็นเมนูประจำวันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต

ทำไม? เราจึงควรดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมโค

สิ่งที่เคยดีต่อสุขภาพในอดีต อาจให้โทษมากมายในวันนี้ ผลการศึกษาล่าสุดในวงการแพทย์ ได้หักล้างทั้งทฤษฎีและวิถีปฏิบัติที่เคยคิดว่ามีคุณประโยชน์มาแล้วมากมาย และในปัจจุบัน นมโค ก็เป็นอีกหนึ่งในความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ และความเจ็บป่วยสะสมมากมาย ที่กระทรวงสาธารณสุขในหลายประเทศไม่แนะนำให้ประชาชนดื่มเป็นประจำ

แม้นมเป็นอาหารที่ย่อยง่าย อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น โปรตีน แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินบี 2 ซึ่งจำเป็นต่อเด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตที่จะนำไปสร้างกระดูก ฟัน กล้ามเนื้อ และส่วนต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย สติปัญญา จึงควรดื่มวันละ 2 แก้ว แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ควรดื่มนมทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว แต่ไม่ใช่เพียงนมวัวเท่านั้นที่มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ นมถั่วเหลืองก็มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีไม่แพ้กัน

ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ให้คุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์ และถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายจะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้ นอกจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมายคือ คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ, บี, บี 1, บี 2, บี 6, บี 12, ไนอาซิน (Niacin) และวิตามินซี, ดี, อี อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเลซิทิน (Lecithin) อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมันไม่ดี และลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย

ข้อดีของนมถั่วเหลืองคือราคาถูก และนมถั่วเหลืองให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า ช่วยลดคอเลสเตอรอล สำหรับผู้หญิงนมถั่วเหลืองเหมาะที่สุดเพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมีผิวพรรณดี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน การดื่มนมถั่วเหลืองเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ลดอาการผิดปกติต่างๆ นมถั่วเหลืองยังเหมาะกับสาวๆที่ต้องการลดความอ้วนอีกด้วย และแม้ว่านมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียมที่น้อยกว่านมวัว แต่ให้เหล็ก และวิตามินบี 1 มากกว่า การเลือกที่ดีที่สุดคือเลือกซื้อนมถั่วเหลืองที่เติมแคลเซียม

ในน้ำนมถั่วเหลืองยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง วิตามินเอในน้ำนมถั่วเหลืองนั้นจะช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 1 จำเป็นต่อการทำงานของระบบหัวใจ วิตามินบี 2 ทำงานร่วมกับโปรตีน วิตามินบี 12 ช่วยบำรุงประสาท วิตามินซีช่วยสร้างคอลลาเจน ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด วิตามินดีสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และโฟเลต (Folate) สร้างเม็ดเลือดแดง

ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือ วันละหนึ่งแก้ว และหากจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เพราะในนมถั่วเหลืองจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมาก ฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาหารจะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นๆลดลง

นมถั่วเหลืองอาจเหมาะกับเพศหญิง แต่ไม่แนะนำสำหรับเพศชายที่จะดื่มทุกๆวัน เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไป ทำให้ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย นมถั่วเหลืองยังเหมาะกับผู้สูงอายุ หรือผู้หญิงที่กำลังจำกัดน้ำหนัก เนื่องจากนมถั่วเหลือง 1 แก้วจะให้พลังงานเพียง 80 แคลอรี่ (calories) น้อยกว่านมวัวที่จะให้พลังงานประมาณ 170 แคลอรี่

Carrot Sandwich

แซนวิชไส้แครอท

ส่วนประกอบ

แครอท  2  หัว             

หอมใหญ่  1  หัว      

เนยถั่ว  2  ช้อนโต๊ะ  

(Peanut Butter)                 

เนยจืด  2  ช้อนโต๊ะ                   

ขิง  ½  ขีด, พริกไทย, เกลือ

วิธีทำ :

1.   หั่นแครอท, ขิง, หอมใหญ่ แล้วนำแครอทไปต้มจนเปื่อย พักไว้

2.   แบ่งเนยใส่กระทะเล็กน้อย ใส่ขิง, หอมใหญ่ลงไปผัด แล้วเติมพริกไทย, เกลือ ลงไปผัดรวมกันจนเปื่อย

3.   แล้วเอาไปบดรวมกันกับแครอทและเนยถั่ว เติมเนยลงไปจนหมด แล้วบดให้เป็นเนื้อเหลวๆ

4.   นำไส้แครอทที่บดเข้ากันแล้วมาทาขนมปัง เสิร์ฟพร้อมน้ำผลไม้หรือกาแฟ

Pud-sa-jeen Fried

พุทราจีน : ในทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่า พุทราจีนมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงเลือด ทานได้ทั้งผลสดและแห้ง ซึ่งยังช่วยบรรเทาอาการเบาหวาน ช่วยขับปัสสาวะ ลดไขมันในเลือด รักษาอาการตับแข็งในผู้ที่ดื่มสุราบ่อย และแก้อาการท้องเสียได้ดี

พุทราจีนทอด      (สำหรับ 2-3 ที่)

ส่วนผสม

แป้งข้าวโพด  ½  ถ้วย                        

ไข่ไก่  1  ฟอง                           

แป้งหมี่  1  ถ้วย                                    

น้ำสะอาด  1  ถ้วย                                

พุทราจีนกวนสำเร็จ  1  ซอง

น้ำมันพืช

วิธีทำ :

1.      ผสมส่วนผสม แป้งข้างโพด แป้งหมี่ ไข่ไก่ ให้เข้ากัน ค่อยๆผสมน้ำลงไป แล้วจึงกรองด้วยตะแกรงตาถี่ๆ

2.      เทน้ำมันพืชเพียงเล็กน้อยให้เคลือบผิวกระทะ เร่งไฟแรงให้กระทะร้อน แล้วหรี่ไฟลงเหลือปานกลาง ถ้ามีกระทะเทฟลอนไม่ต้องใส่น้ำมันก็ได้

3.      ตักส่วนผสมของแป้งที่กรองแล้ว แผ่ให้เป็นแผ่นในกระทะที่ยังร้อนอยู่ ดูว่าพอสุกแป้งจะมีสีเหลืองและแห้งจนสามารถล่อนได้ จึงใส่พุทรากวนลงไป

4.      พับแป้งที่ห่อไส้ทั้งสี่มุมให้มิดชิด และใช้แป้งผสมที่เหลืออยู่ทาตรงขอบแต่ละด้าน ช่วยประสานให้แผ่นแป้งติดกันดี แล้วหยอดน้ำมันลงรอบๆกระทะอีกนิด เพื่อให้แป้งหลุดจากกระทะได้ง่าย

5.      นำแป้งไส้พุทราที่ได้ลงทอดในกระทะอีกใบที่ใส่น้ำมันจนท่วมแป้ง (deep-fried) รอจนแป้งลอยขึ้นมา และมีสีเหลืองนวลแสดงว่าสุกแล้ว ตักขึ้นวางบนเขียง แล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้น ก่อนจัดใส่จาน (ใช้เวลาทอดประมาณ 3 นาที ไฟแรง)

Tips :

-        แป้งหมี่ที่ใช้ ก็คือ แป้งตราบัวแดง

-        พุทราจีนกวนสำเร็จสามารถหาซื้อได้ที่เยาวราช

-        ถ้าไม่มีกระทะก้นลึกแบบจีน ก็สามารถใช้กระทะเทฟลอน (Teplon) แทนได้

-        สามารถเปลี่ยนไส้เป็นเผือกหรือครีม ได้ตามใจชอบ

Low-carb Vanilla Ice cream

ไอศกรีมวานิลลา สูตรคาร์โบไฮเดรตต่ำ

ส่วนผสม

ไข่ไก่  4  ฟอง   (แยกไข่แดงกับไข่ขาว)                                                                  

ครีมชีส  450  กรัม   (16 ออนซ์)                               

ครีมข้น  1  ถ้วย

วานิลลา  1  ช้อนชา

น้ำตาลเทียม  ½  ถ้วย

วิธีทำ :

1.   ตีไข่ขาวด้วยเครื่อง ใช้ความเร็วสูงจนขึ้นฟูตั้งยอด พักไว้

2.   นำครีมชีสมาไว้ที่อุณหภูมิห้องจนอ่อนตัว หรือนำเข้าไมโครเวฟประมาณ 10-15 วินาทีก็ได้

3.   ตีครีมชีสจนขึ้นฟู เนื้อเนียน เติมครีมข้น

4.   นำไข่ขาวที่พักไว้มาผสมในส่วนผสมครีมชีส ใช้พายยางผสมให้เข้ากันอย่างช้าๆ แล้วนำไปแช่ช่องแข็งนานประมาณ 2 ชั่วโมง